ดื่มกาแฟเยอะเกินไป บางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้
คนไม่ใช่น้อยที่เป็นคอกาแฟอาจถูกใจในรส สุขภาพ แล้วก็การได้ตื่นตัวมีชีวิตชีวาขมีขมันจากเครื่องดื่มรสขมแม้กระนั้นกลิ่นหอมสดชื่นอบอวลอุ่นๆทุกเช้าตรู่ แม้กระนั้นการดื่มกาแฟมากจนเกินไป บางทีอาจเกิดโทษต่อร่างกายได้
งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่เผยแพร่ผ่านเว็บ Nutritional Neuroscience ตอนวันที่ 24 ไม่.ย. 2564 กล่าวว่า พวกเราไม่สมควรดื่มกาแฟมากยิ่งกว่า 5-6 แก้วต่อวัน เพราะเหตุว่าบางทีอาจรังควานสมองได้ โดยเก็บข้อมูลที่ได้รับมาจากคนราว 400,000 ผู้ที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ (อีกทั้งแบบมีคาเฟอีน และก็แบบดีแคฟ ไม่มีคาเฟอีน) แบ่งกลุ่มทดสอบออกเป็นหลายกรุ๊ป ทั้งยังกรุ๊ปที่ดื่มแก้วเดียว ไปจนกระทั่งกรุ๊ปที่ดื่มมากถึง 6 แก้วต่อวัน รวมทั้งนำคนราว 18,000 คนมาสแกนสมองผ่านเครื่อง MRI
ภายหลังติดตามข้อมูลอยู่นาน 11 ปี นักค้นคว้าพบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ดื่มกาแฟน้อยกว่า (1-2 แก้วต่อวัน) แล้ว ผู้ที่ดื่มกาแฟหนัก (มากยิ่งกว่า 6 แก้วต่อวัน) มีการเสี่ยงที่จะมีขนาดสมองเล็กลงมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมองส่วนฮิปโปโปเตมัสแคมปัส (hippocampus) ซึ่งเป็นส่วนที่ปฏิบัติภารกิจรักษาความจำอีกทั้งระยะสั้นรวมทั้งระยะยาว
ผู้ที่ดื่มกาแฟหนักยังเสี่ยงต่อการเช็ดกวิเคราะห์ว่าเป็นโรคโรคสมองเสื่อมมากยิ่งกว่าผู้ที่ดื่มกาแฟเพียงนิดหน่อยถึง 53% โดยไม่เกี่ยงงอนว่าจะเป็นกาแฟแบบมีคาเฟอีน หรือเปล่ามีค้างเฟอัน (ดีแคฟ) ก็ตาม
ถึงแม้นักค้นคว้าจะยังไม่เจอหลักฐานแจ้งชัดว่าเป็นเพราะอะไรกาแฟถึงเข้าไปทำลายสมองส่วนของความจำได้ แม้กระนั้นนักค้นคว้าชี้ว่า กาแฟอาจมีแคเฟสทอล (cafestol) หรือโมเลกุลในกาแฟที่อาจจะทำให้คอเลสเตอรอลภายในร่างกายสูงมากขึ้นได้
อย่างไรก็ดี นักค้นคว้ามิได้ชี้แนะให้หยุดดื่มกาแฟโดยเด็ดขาดไปเลย แต่ว่าควรจะลดจำนวนลงโดยดื่มไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน และไม่ควรจะดื่มข้างหลัง 16.00-17.00 น. เพื่อไม่ให้ฤทธิ์ของคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟก่อกวนการนอน